วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2562

Kasane & Misumisou

คือ เรื่องนี้แบบ เห็นหน้าปก ก็น่าสนใจแล้ว หนังอะไรวะเนี้ย + จำหน้านางเอกได้  เลยต้องดูสักหน่อย

เปิดมาฉากแรก เห็นหน้าน้องคนนี้ก็กรี๊ดแล้ว น่าร๊ากกกกกกกกกกก
(ขนาดว่าน้อง Make Up ขนาดนี้ยังดูดีได้ ไอเรา หน้าไม่ต้อง Make ยังดูแถบไม่ได้ 555)

คนน่ารักในชุดลายดอก เห็นแล้วใจละลาย หัวใจจะวาย

 

 คือ ทั้งเรื่องดูแต่หน้าน้องนี้แหละ


ชอบ ทรงนี้ ยุ่งอย่างมีสไตล์


รอยยิ้มนี้แบบว่า อ๊ากกกกกกกกกกก

สวยแบบนี้ เป็นนางเอกเถอะลูก




ชอบฉากนี้ บ้าระห่ำมาก กระโดดงับมีด

คือ ตอนแรก จะดูเพราะจำหน้า Tsuchiya Tao (土屋太鳳) อีกคนนี้ไม่รู้ใคร แต่พอดูหนังเท่านั้นแหละ
ดูแต่หน้า Yoshine Kyoko (芳根京子) ชอบหน้านางเรื่องนี้ มันดูมีเสน่ห์ บอกไม่ถูกว่า เพราะอะไร
อาจจะด้วยตัวละคร บท บุคลิก การแต่งหน้า ดูแล้วลงตัว เพราะลองไปหารูปนางในเน็ต เรื่องอื่นไม่ค่อยโดน ใครไม่เคยดู ก็ให้ลองดู (แค่ดูหน้านางเอกก็คุ้มแล้ว 555)

 
Spoiler
เข้าเรื่องหนังโม้ แต่นางเอก ไอเดีย ก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไร คนสลับหน้า สลับร่าง ตอนนี้เยอะแยะ
ที่แตกต่าง คือวิธี ซึ่งเรื่องนี้ใช้ลิปสติก ก็ไม่มีอะไร คนหนึ่งสวย แสดงไม่เก่ง คนหนึ่งหน้าเป็นแผล แต่แสดงเก่ง ก็เลยสลับกัน ให้มันกลายเป็น คนสวย แสดงเก่ง แต่หนังจบแบบงงๆ ให้คิดเอาเอง
สรุปตัวจริงตายไหม แล้วถ้าตัวจริงตาย หน้ามันจะสลับได้อีกเหรอ แล้วถ้าลิปหมดอะทำไง 555
แต่อันนี้ พีคสุด ใครอ่านปุป เออวะ หนังแม่มทำ ทำไม จะสลับกันแบบนี้ทำไม
แค่อยากจะบอกว่า " ทำไม หน้าเป็นแผล ไม่บินไปเกาหลีอะลูก แค่นี้ ทุกอย่างจบ ไม่ต้องตีกันน้า "
หยอกๆ โดยรวมแล้ว สนุกน้า ดูไปก็อยากรู้จะจบยังไง 

มาต่ออีกเรื่อง Misomisou พึ่งดูวันนี้ Kasane ดูเมื่อวาน แล้วก็เรื่องดูเรื่อง Dark ติดๆ กันเลยนะ
คนดูใจจะไปก่อนไหม

 คนอย่างเราไม่มีอะไรมาก ดูหนังตามหน้าปก กะ หน้านักแสดง
 
 
คือ เห็นรูปนี้ปุป ก็ตัดสินใจดูปัป ทันที ไม่ต้องสนใจอะไรแล้ว นางเอก น่าร๊ากกกกกกกกกกก
Misomisou เป็นหนังที่น่ากลัว ผมไม่แน่ใจว่า คนที่ดูๆ จะเข้าใจไหม แล้วตีความผิดๆ หรือเปล่า
จะไปทำให้มีผลต่อกระบวนการความคิด การตัดสินใจอะไรผิดๆ ไปว่ากันตอนท้าย
มากล่าวถึงตัวหนังกันก่อน ทำไม มันจะอะไรขนาดนั้น เป็นยังไง มีผลอะไร

นางเอกเรา เด็กน้อยน่ารักใสแบ๊ว

Plot สั้นๆ ง่ายๆ นร โดนเพื่อนแกล้ง แต่มันแกล้งกันจนถึง ครอบครัวเสียชีวิต ทำให้มันไม่ใช้การแกล้งกันธรรมดาๆ คือ อันนี้คิดเองจากการดูนะ หนังจะสื่อให้เห็นว่า แก๊งเด็กไม่ดีที่แกล้งนางเอก
ครอบครัวมีปัญหา/มีปัญหากับครอบครัว จะเห็นจากฉาก พ่อให้ไปซื้อเหล้า พ่อบังคับไม่ให้เรียนตามที่ฝัน พ่อทำร้ายแม่ ครอบครัวมีปัญหา ก็สร้างเด็กมีปัญหาขึ้นมา แล้วก็ส่งเด็กมีปัญหาเข้าสู่สังคม แล้วก็เหมือนกับคำพูดที่ว่า " น้ำน้อย ยอมแพ้ไฟ " พวกเด็กมีปัญหารวมตัวกันเยอะๆ เด็กที่ไม่มีปัญหาแต่อยู่ในสังคมเดียวกัน ก็จะถูกกลืนกินเข้าไปด้วย สังเกตุได้จาก เด็ก 2 คน ที่ทำผิด แล้วกลัวขึ้นมา















วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2562

Chihayafuru จิฮายะ กลอนรักพิชิตใจเธอ (3)

พอดีวันนี้ นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้ดูหนัง นอกจาก Netflix นานแล้ว
ก็เลย คิดถึง เรื่องนี้ขึ้นมาว่า เฮ้ยยยยยยย ยังไม่ได้ดูภาค 3 นี้หว่า
หาดูอย่างไว

ภาค 1 กับ 2 นี้ ดูปีที่แล้ว จำไม่ได้ละ จำได้แค่ว่า สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกก
ภาค 3 นี้ มันเหมือนจะออกแนวเนื้อเรื่องไปหน่อย ฉากเล่นคารุตะ จำได้ว่าภาค 2 นี้สู้กันมันมาก
ดูจบนี้ เวลาเดินแถบจะตบโต๊ะ ตบกำแพงไปเรื่อย อินจัด


 

 ภาคนี้นางเอกน่ารักเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนเลย แต่ฉากแรกเปิดมา เห็นน้องคนนี้ แอบตกใจ เคยดูนางในเรื่อง Switched ชอบนางมากกกกกกกก เรื่องนั้นนางสวย เล่นดี มาเรื่องนี้ก็สวย แต่เล่นน้อยอะ



 ควีน ก็สวยนะ แต่บทภาคนี้ ทำไมมันดูแปลกๆ ภาคก่อนๆ นางจะนิ่งๆ ขรึมๆ อ๊องๆ เฉพาะเวลา Snowmaru แต่ภาคนี้ ดูนางอ๊องๆ ตลอดเลยอะ งง

 


ภาคนี้รู้สึกไม่มีอะไรเด่นๆ แบบดูแล้วว้าว เหมือนภาคก่อนๆ แต่ก็ถือว่าดี ดูสนุก เพลินๆ ไปได้ ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่มีช่วงไหนแบบ ไม่สนุก 



ความมันบังเกิด ตอนเล่นเนี้ยละ ใจจริง อยากให้แบบ ทำหนังสัก 3 ชม ไปเลย ไหนๆ ก็ภาคจบละ
เอาแบบฉากสู้เพิ่มหน่อย แล้วให้ มีฉากสู้กะควีน ปิด

1 June 2019

ไม่ได้เขียนนาน หลังจากรู้จัก Netflix 555  วันๆ ไม่ทำไร ดูเข้าไปๆ ไม่งั้น ก็เล่นเกม
ทุกวันที่ใช้ชีวิตแบบนี้ ก็ไม่รู้สึกอะไรนะ พอมานั่งพิมพ์ เริ่มรู้สึก
" เฮ้ยยยย เราไม่ได้เข้ามานานขนาดนี้ ทั้งๆ ที่รู้สึกเหมือนพึ่งผ่านมาไม่นาน "
เวลาของเราจมหายไปกับการดูหนัง เล่นเกม ฟังเพลง เยอะขนาดนี้ ไม่เคยรู้สึก
ไอดูหนัง ฟังเพลง นี้ก็ยังเหมือนได้อะไรบ้างนะ
ดูหนังก็แบบ ได้ข้อคิด ไอเดีย อะไรที่มันมีประโยคบ้าง
ฟังเพลงก็ทำให้ผ่อนคลาย อารมณ์ดี ได้ข้อคิดบ้างเล็กน้อย 555
แต่เล่นเกมนี้ซิ เราได้อะไรบ้าง จริงๆ นี้ แถบไม่ได้อะไรเลยนะ แต่ทำไมเรายังเล่น???
ถ้าเป็นเกมสมัยก่อนเล่นพวก RPG ในเครื่องเกมจริงๆ
ยังมีข้ออ้างให้ตัวเองว่า ได้ฝึกภาษา และมันก็สนุกจริงๆ
เกมยุคหลังๆ ที่เล่นนี้ แถบจะ Auto อย่างเดียว กดๆ เปลี่ยนหน้าจอเฉยๆ (แต่ตัวเองก็ยังเล่น)
เลยมานั่งคิด อะไรคือ " ความสนุก " ของเกม Auto พวกนี้???
เอาง่ายๆ RO งี้  สนุกตอนเวลขึ้น ได้ของ ทั้งๆ ที่เล่นก็เหมือนไม่ได้เล่น เปิดไว้เฉยๆ
บางคนยอมเสียเงิน เพื่อเล่นเกม พอเราทำงานหาเงินได้เอง เราก็รู้สึกแบบ
" ถ้าเล่นแล้วต้องเสียเงิน เสียเวลา ไม่เล่น แล้วไม่เสียเงินดีกว่าไหม "
มันก็มีบางมุมที่แบบ เติมเกมไม่กี่ร้อย ได้ความสนุก เราทำงานวันหนึ่ง ก็ได้เงินเกินละ เติมสบายๆ
อีกใจก็แบบ " เอ เขาให้เราเล่นฟรี แล้วจะเสียเงินทำไม "
เพราะ เวลาว่างเรามีจำกัด ไม่ว่าจะใช้ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม มันก็เป็นการ
เอาเวลา ไปแลก ความสนุก เหมือนกันทั้งนั้น ทำไม เราไม่เลือกใช้เวลา ไปกับ กิจกรรมที่ไม่เสียตังแทน

ไอดูหนัง ฟังเพลงนี้ มันก็เสียค่าไฟ ค่าเน็ต เหมือนเล่นเกม แค่ไม่ต้องไปเติม ก็สนุกได้
ไปอ่านเจอในเน็ต " เกมสมัยนี้ ใครเปิดนานกว่า เก่งกว่า " ฉุกคิดขึ้นมาว่า " เออจริงวะ "
แล้วเราจะมานั่งเปิดเกมทิ้งไว้ แข่งกันทำไม ให้เปลืองไฟ ทั้งๆ ที่ก็เหมือนไม่ได้เล่น
ได้ความสนุกแปปเดียวอะ ตอนสุ่ม Gacha Farm ของ แต่งตัว นู้นนี้นั้น
เกมที่นึกย้อนกลับไปว่า เล่นแล้วได้ความสนุกเลยจริงๆ นี้
Map Fate Stay Night ใน Warcraft 3 ถ้าใครเคยเล่นนี้ ยินดีด้วย คุณมีชีวิตอยู่มานานแล้ว 555
นึกถึงสมัยที่เล่นกับเพื่อนนี้ อย่างมัน สู้กันสกิลกระจาย ตัวละคร 10 กว่าตัว
แต่ตัวหนึ่งเล่นได้หลายแนว ทำให้เล่นซ้ำๆ ก็ยังไม่เบื่อ วันหนึ่งเล่น 10-20 ตา
ไม่ได้ตั้งใจมา พิมพ์ไอยาวๆ ทั้งหมดนี้นะเนี้ย พอดีดูหนังพึ่งจบ โดนใจอยากมา เขียนเก็บไว้
ไปเขียนแล้วดีกว่า